จากศึกแดงเดือด 2023 ที่ผ่านมา ในแอนฟิลด์ที่ลิเวอร์พูลเปิดบ้านเจอกับทีมฟอร์มแรงที่เพิ่งคว้าแชมป์คาราบาวคัพมาอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด คงไม่ต้องพูดให้มากความในเรื่องความบาดหมางกันของสองทีมนี้ เพราะแฟนบอลคงเคยได้ยินเรื่องราวของทั้งสองทีมมาเป็นอย่างดีกันอยู่แล้ว และวันนี้บทความเรา KU88TH จะมาพูดถึงเกมพรีเมียร์นัดที่ 25 ของทั้งสองทีม ที่เป็นการเจอกันครั้งที่ 2 ในฤดูกาล 22/23 และก็เป็นเกมที่เป็นลิเวอร์พูลที่เอาชนะไปได้ เชื่อว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่แฟนบอลทั้งสองทีมคงไม่ลืมกัน เพียงแต่จะเป็นเกมที่มีความทรงจำที่แตกต่างกันเท่านั้น
แน่นอนว่าจะเป็นเกมที่เด็กผีไม่ได้มีความสุขกับฟอร์มการเล่นของทีมเป็นแน่แท้ ซึ่งนั่นช่างแตกต่างจากแฟนหงส์เป็นอย่างมาก เราคงจะไม่พูดถึงเรื่องไม่ดีจากทีมแมนยูเพราะหลายคนคงเห็นข่าวหลายสำนักเสนอไปแล้ว และการตอกย้ำคงไม่ใช่เส้นทางที่เราชอบนำเสนอมากนัก วันนี้เราจะมาเสนอเรื่องของเหตุผลที่จะทำให้แฟนลิเวอร์พูลในยุคนี้ไม่มีทางลืมเลย กับการแข่งขันในครั้งนี้ ที่ไม่ได้มีเพียงผลงานเท่านั้นที่น่าสนใจ
ครั้งแรกในแดงเดือด ที่ยิงกันห่างที่สุด
แน่นอนว่าในประวัติศาสตร์ แดงเดือด 2023 ลิเวอร์พูลเคยชนะมากสุดที่ 7 – 1 แต่ครั้งนี้ต่างออกไป เพราะยิงได้ถึง 7 ประตู และไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว เชื่อว่าหลายคนคงไม่ได้คิดว่าเกมจะจบลงด้วยผลการแข่งขันเช่นนี้
ก่อนเกมที่ผลงานต่างกัน
แมนยูเพิ่งคว้าแชมป์คาราบาวคัพมา และเก็บผลชนะได้เรื่อยๆแม้จะมีสะดุดบ้าง แต่ไม่ได้มากเท่ากับลิเวอร์พูล ที่ก่อนหน้านี้ก็สะดุดมายาว จนถึงขั้นลงไปอยู่อันดับที่ 10 มาแล้ว เพิ่งจะมีผลงานที่ดีมาบ้างในช่วงหลัง แฟนบอลหงส์หลายคนก็คงจะคิดไว้ว่าคงเอาชนะได้ยากหากมองด้วยฟอร์ม แต่หลายคนก็มั่นใจว่าจะไม่แพ้แบบไร้ศักดิ์ศรีแน่นอน เพราะนี่คือเกมแดงเดือด เป็นเกมที่สำคัญมากๆ เกมหนึ่งในฤดูกาล
บอลเข้าทางลิเวอร์
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกมนี้บอลหลายๆ ลูกเข้าทางในฝั่งลิเวอร์พุลเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะทำอะไรก็เข้าทางไปหมด หลังจากหลังครึ่งหลังที่มีจังหวะมาให้ลุ้นเรื่อยๆ ทั้งในเรื่องของความคมของกองหน้า เพราะได้ยิงกันทุกคน มีเพียงตัวสำรองอย่างโชวต้าเพียงเท่านั้น ที่ไม่มีประตูในเกมนี้
การเลือก 11 ตัวจริงที่ลงตัว
ผู้รักษาประตูคงไม่ต้องคาดการณ์ให้ยุ่งยากเพราะพ่อหมีเป็นมือหนึ่งของทีมกันอยู่แล้ว คู่เซนเตอร์ที่ลงตัวกันเป็นอย่างมาก แทบไม่ปล่อยให้มีจังหวะอันตรายเลย มีเพียงจังหวะที่ฟานไดจ์จ่ายพลาดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แบคซ้าย – ขวา ร็อบโบ้และเทรนต์ที่ช่วยเกมรับและเกมรุกได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะร็อบโบ้ที่ทำแอสซิสลูกแรกให้กักโปในเกมนี้ กองกลางที่จัดมาได้เป็นอย่างดี ฟาบิญโย่ ที่ฟอร์มดีแตกต่างจากช่วงก่อนหน้า ช่วยกองหลังได้เป็นอย่างดี และกัปตันอย่างเฮนโด้ที่เพรสนำบอลกลับมาควบคุมได้อย่างดีและรวดเร็ว ทำให้ตรงข้ามเล่นยากเป็นอย่างมาก และจุดเปลี่ยนของแดนกลางก็คือเอเลียต ที่เป็นการตัดสินใจที่ดีของบอสเป็นอย่างมาก เพราะปกติเป็นบายเซติชที่มีเกมรับที่ดี แต่จุดเด่นของเอเลียตนั่นก็คือการนำบอลเข้าสู่เขตโทษ และทำได้ดีเป็นอย่างมาก ทั้งยังทำแอสซิสได้ถึง 2 ลูกในเกมนี้
และก็มาถึง 3 ประสานใหม่ของทีมอย่าง กัคโป นูญเญซ ซ่าราห์ ซึ่งทำกันไปคนละสองประตู พูดถึงคนแรกเลยก็คือกัคโป ที่ทำประตูแรกให้กับทีม หากจะพูดถึงเรื่องราวที่น่าสนใจนั่นก็คือก่อนหน้าที่จะย้ายมาลิเวอร์พูล ในศึกบอลโลกที่เขาโชว์ฟอร์มได้เป็นอย่างดี และมีข่าวว่าจะย้ายมาแมนยูแต่กลับพลิกลำมาที่ลิเวอร์พูลแทน มาในช่วงที่ทีมกำลังฟอร์มตก และแฟนบอลผีแดงคงจะลุ้นให้ฟอร์มแย่ต่อเนื่องเพราะเป็นนักเตะที่ไปทีมที่เป็นคู่แข่งขัน แต่กลับมาโชว์ฟอร์มดีในเกมนี้
คนต่อไปนั่นก็คือ ดาร์วิญ นูญเญซ ที่หลายคนชอบแซวว่าเป็น ดาวิญ แคร์โรล นักเตะที่ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญามาด้วยค่าตัวที่แพงสุดในสโมสรจากนิวคาสเซิล และผลงานก็ไม่ได้ดีกับลิเวอร์พูล แต่นูญเญซก็พิสูจน์ให้เห็นในเกมนี้ ว่าเขาไม่ได้เป็นเช่นนั้นโดยการยิงไปถึง 2 ประตู แต่ก็มีจังหวะที่เกือบหลุดไปครั้งนึง ตอนชอว์เดนมาชน แต่ดีที่ซาร่าห์มาห้ามไว้ ยังไงก็ตามทั้งสองคนยังต้องพิสูจน์ตัวเองในถิ่นแอนฟิลด์อีกเยอะเพราะนี่เป็นเพียงปีแรกของทั้งสองคนเท่านั้น
และก็มาถึงคิงโม หรือโม ซาร่าห์ คิงออฟอียิปต์ของถิ่นแอนฟิลด์ ที่ซัดไปสองประตู และเป็นดาวซัลโวของสโมสรไปเรียบร้อย โดยก่อนเกมตามหลังฟาวเลอร์ที่ 1 ประตู โดยเกมนี้ ยิงไป 2 ทั้งตีเสมอและยิงนำสถิติกันไปเลย ทำให้ซาร่าห์เป็นดาวยิงของสโมสรไปด้วยประตูนี้
ตัวสำรองที่บอสเลือก
ตัวแรกเลยคือบายเซติช ที่ลงมาแทนกัปตัน และเพิ่มพลังงานให้ทีมได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับรองกัปตันอย่างเจมส์มิลเนอร์ที่ลงมาเป็นพลังงานเช่นกัน ส่วนเคอร์ติสโจนและโชวต้า แม้ว่าจะไม่ได้มีผลงานอะไรมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้โมเมนตัมทีเสียแต่อย่างใด และคนที่ส่งผลต่อหัวใจเด็กคนมากที่สุดคนนึงอย่างโรแบร์โต้ ฟรีมิโน
นัดสุดท้ายในแดงเดือดของ โรแบร์โต้ ฟรีมิโน
ก่อนหน้าที่จะเตะเกมนี้ ได้มีข่าวออกมาว่า โรแบร์โต้ ฟรีมิโน ได้แจ้งกับเจอร์เก้น คล็อปป์ ว่าฤดูกาลนี้เขาจะไม่ต่อสัญญากับทีม เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนคงใจหาย เพราะสามประสานของลิเวอร์พูลเหลือเพียง โรแบร์โต้ ฟรีมิโน และโมฮาเหม็ด ซาร่าห์ เนื่องจากฤดูกาลที่แล้วซาดิโอ มาเน่ เพิ่งย้ายไปเล่นที่บาเยิร์น และปีนี้ก็จะต้องเสียบ็อบบี้ไปอีก แต่การที่ทีมทุ่มซื้อดาร์วิญและกักโปมา และด้วยอายุการใช้งานต้องขอบอกเลยว่าค่อนข้างชัดเจนว่าบ็อบบี้จะต้องตกเป็นสำรอง ด้วยสภาพร่างกายและการใช้งาน เขาจึงเลือกที่จะย้ายออกไป และในเกมนี้เขาลงมาทำทั้งประตูและแอสซิสแบบงงๆ ไปหนึ่งลูก
นอกจากจะเป็นเรื่องของสกอร์ที่จะเป็นตำนานแล้ว ยังมีเรื่องราวมากมายที่น่าจดจำของแฟนหงส์แดงไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการเล่น ที่ไม่ได้เห็นมานาน และเรื่องของการจากลาของกองหน้าที่เป็นที่รักของแฟนบอล แม้จะเป็นเกมที่น่าจดจำในเรื่องของการเอาชนะทีมคู่ปรับได้ แต่ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ช่างช่วยงามเหลือเกิน กับการจากลาของโรแบร์โต้ ฟรีมิโน